จินตนา มหารัญ
กองทุนเพื่อการศึกษา เรียนรู้ และสร้างอาชีพ
สวัสดีค่ะหนูชื่อนางสาวจินตนา มหารัญ อายุ 19 ปี ตอนนี้กำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาเทคโนโลยีการเกษตร
ตอนเด็ก ๆ พ่อกับแม่เช่าห้องอยู่ แม่ทำแหนมขาย หนูก็จะซ้อนจักรยานไปขายของกับแม่ กลับบ้านดึกทุกวัน ยุงกัดขาลายไปหมด จะอยู่บ้านก็ไม่มีคนดูแล เพราะพ่อออกไปทำงาน ไม่ค่อยอยู่บ้าน แล้วค่าเทอมหนูตอนอนุบาลแพงมากเพราะเรียนเอกชน ชีวิตลำบากมากค่ะ แต่พ่อแม่ก็สู้เพราะอยากให้ได้เรียนโรงเรียนดี ๆ จนไม่ไหวจริง ๆ ถึงกับต้องค้างค่าเช่าห้อง จนห้องเช่าเขาก็ไม่ให้อยู่ พ่อเลยต้องมาขออยู่ในที่สวนของเจ้านายพ่อ พ่อก็ทำที่อยู่ให้แค่พอนอนได้ แต่ห้องน้ำที่ใช้ไม่มีอะไรกั้นเป็นผนังเลย เวลาอาบน้ำก็ต้องอาบแบบโล่ง ๆ นุ่งกระโจมอกอาบ
พอโตขึ้นช่วงม.3 หนูก็เริ่มมีความคิดว่าอยากหาเงินใช้เอง อยากช่วยพ่อแม่หาเงินด้วย หนูเลยไปสมัครงานที่ชาบูชิที่แรกเลยค่ะ เพราะมีร้านเดียวที่รับเด็กอายุ 15 ปีเข้าทำงาน ตอนไปทำงานวันแรกเหนื่อยมาก แล้วพ่อก็ไปตามถึงร้านเลย เพราะพ่อไม่อยากให้ทำ พ่อเป็นห่วง หนูก็บอกว่าหนูทำได้ไม่ต้องห่วง แล้วจากนั้นหนูก็กล้าที่จะแสดงออกมากขึ้น แล้วพอ ม.4 หนูก็สอบเข้าโรงเรียนรัฐบาลติด พ่อกับแม่ก็เบาค่าใช้จ่ายลงไปนิดหน่อย
ช่วง ม.5 หนูก็ไปทำงานเป็นพนักงานเสริฟที่โรงแรม กลับบ้านดึกทุกวัน ทำได้สักพัก แม่ก็เสียชีวิตด้วยสาเหตุไตอักเสบติดเชื้ออย่างรุนแรง เพราะแม่หนูช่วงหลังดื่มเหล้าหนักมาก หนูกับพ่อไม่รู้ว่าแม่เป็นไต จนวันเก็บของแม่จะเอาไปไว้บ้านเกิดแม่ที่อุบลราชธานี ได้เห็นใบที่หมอเขียนว่าแม่เป็นโรคไต เหมือนแม่รู้ตัวอยู่แล้วแต่ไม่รักษาต่อคงกลัวว่าค่าใช้จ่ายจะเยอะ ช่วงที่แม่เสียหนูคิดอะไรไม่ออกเลยค่ะ กินข้าวไม่ได้เลย นอนร้องไห้ทุกวัน เพราะหนูสนิทกับแม่มาก ๆ มีอะไรก็จะคุยกับแม่ตลอด แม่เป็นเหมือนเสาหลักของที่บ้าน เพราะก่อนแม่จะเสียแม่ไปทำงานเป็นแม่บ้านบริษัท แม่ทำงานมีเงินเดือนที่ค่อนข้างมั่นคงค่ะ ส่วนคุณพ่อเก็บของเก่าขาย ขายผักและรับจ้างทั่วไป รายได้ของพ่อไม่แน่นอน และไม่พอที่จะมาใช้จ่ายในครอบครัวสักเท่าไหร่ พ่อต้องไปกู้เงินมาจ่ายค่าน้ำค่าไฟ และช่วงหลังจากที่แม่เสียไปสักพัก พ่อก็ติดสุราหนักมากเลยและสุขภาพก็ไม่ดีเหมือนแต่ก่อน ทำงานหนักก็ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน
ต่อมาโควิดก็ระบาดหนักมากงานหนูก็ไม่ได้ไปทำ ช่วงนั้นไม่มีเงินเลย หนูก็กำลังจะขึ้น ม.6 ตอนนั้นยอมรับว่าเครียดมากเลยค่ะ เพราะใกล้ที่จะเข้าเรียนในระดับมหาลัยแล้วด้วย กังวลว่าจะไม่มีเงินเรียน ในตอนนั้นพี่ปุ๊กเลขานุการกองทุนเพื่อการศึกษา เรียนรู้ และสร้างอาชีพ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เข้ามาเยี่ยมที่บ้านเพื่อดูสภาพความเป็นอยู่ ได้พุดคุยและสอบถามในเรื่องการเรียนและเรื่องส่วนตัวของหนู หลังจากนั้นก็ติดต่อมาเพื่อให้ความช่วยเหลือหนูในเรื่องทุนการศึกษา ทำให้หนูได้มีโอกาสในการศึกษาต่อไป หนูดีใจมาก ๆ มันเหมือนว่าเราไม่ต้องกังวลแล้วว่าจะไม่มีเงินเรียนต่อ จากที่คิดว่าจะไม่ได้โอกาสได้เรียนมหาลัยแน่ ๆ ก็เปลี่ยนเป็นหนูมีโอกาสได้เรียน เพราะกองทุนเพื่อการศึกษา เรียนรู้ และสร้างอาชีพ เลยจริง ตอนนี้หนูไม่ต้องไปทำงานที่หนัก เหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ทุกวันนี้หนูก็ยังคงรับจ้างทำงานวันเสาร์และอาทิตย์ เพราะอยากมีเงินเก็บเพิ่มเติมในกรณีฉุกเฉิน อีกอย่างเวลาที่มีปัญหาอะไรต่าง ๆ หนูก็จะทักหาคุยกับพี่ปุ๊ก พี่โบ ซึ่งพี่ ๆ ให้กำลังใจและให้คำปรึกษาหนูมาตลอดเลยค่ะ มันทำให้หนูรู้สึกอบอุ่นมาก ๆ หนูรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก ๆ ที่ได้มีโอกาสได้รับทุนการศึกษาจากกองทุนเพื่อการศึกษา เรียนรู้ และสร้างอาชีพ กองทุนที่ทำให้เด็กที่ไม่รู้ว่าจะเอาอนาคตไปฝากไว้ที่ไหนได้มีโอกาสต่อชีวิตด้วยการศึกษาเพื่อจะได้มีอนาคตดี ๆ เหมือนกับคนอื่น